
ROOVTECT รับทำกันสาดครบวงจร โดยทีมสถาปนิกและวิศวกรวิชาชีพ
การต่อเติมกันสาด ไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนที่ยื่นออกมาเพื่อกันแดดและกันฝนเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน ที่สามารถเพิ่มความสง่างาม และทำให้บ้านดูมีเอกลักษณ์ได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ การทำกันสาดจึงต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นแง่ของการใช้งาน ความสวยงาม และความทนทานในระยะยาว
ROOVTECT คือบริษัทรับต่อเติมกันสาดโรงจอดรถ กันสาดหน้าบ้าน และกันสาดรูปแบบอื่น ๆ อย่างครบวงจร เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มสถาปนิกและวิศวกรรุ่นใหม่ ที่ต้องการผสมผสานนวัตกรรมในการก่อสร้างเข้ากับดีไซน์ที่ทันสมัย เพื่อสร้างสุนทรีย์ในการอยู่อาศัยอย่างลงตัว
สำหรับผู้ที่ต้องการติดตั้งกันสาดหน้าบ้านให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ การใช้งาน และดีไซน์ของบ้าน เราพร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นและดูแลไปจนถึงการใช้งาน ด้วยการรับประกันการติดตั้ง ทั้งในส่วนของโครงสร้างและวัสดุตามเงื่อนไขที่กำหนด ตลอดจนมีบริการหลังการขายที่พร้อมดูแลให้คำปรึกษา และซ่อมแซมให้ภายใน 7 วัน
ข้อควรรู้ก่อนต่อเติมกันสาดหน้าบ้านและกันสาดโรงรถ
การต่อเติมกันสาดหน้าบ้านหรือกันสาดโรงรถ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้แก่บ้านและพื้นที่ใช้งาน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันแดดและฝน รวมถึงช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่การใช้งานพื้นที่ภายนอกบ้าน แต่ก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการต่อเติมกันสาด อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยสำคัญเหล่านี้
1. ข้อกำหนดระยะร่นในการติดตั้งกันสาดตามกฎหมาย
การออกแบบและติดตั้งกันสาดต้องพิจารณาถึงข้อกำหนดด้านกฎหมายและระยะร่นเสมอ โดยปกติแล้วกันสาดต้องมีระยะห่างจากเขตที่ดินของเพื่อนบ้านหรือเขตถนนไม่น้อยกว่า 50 เซนติเมตร เพื่อให้ไม่รบกวนพื้นที่สาธารณะหรือเพื่อนบ้าน ทั้งนี้ต้องมีการพูดคุยกับเพื่อนบ้านเพื่อให้ได้รับการยินยอมและไม่สร้างปัญหาทะเลาะกันในภายหลัง
2. พิจารณาเลือกวัสดุที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมและการใช้งาน
บริษัทรับติดตั้งกันสาดมีวัสดุที่ใช้ในการต่อเติมให้เลือกหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการใช้งานที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อมของพื้นที่ เช่น
- บ้านและพื้นที่นั่งเล่น : หากต้องการกันสาดสำหรับพื้นที่นั่งเล่นนอกบ้าน ควรเลือกวัสดุที่โปร่งแสงอย่าง “Shinkolite” ช่วยให้แสงธรรมชาติส่องผ่านได้ดี ทำให้พื้นที่ดูสว่างและสบายตา แต่ก็ทนต่อแดดและฝนเช่นกัน
- โรงรถ : สำหรับโรงรถ ควรเลือกวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนและฝนได้ดี เช่น “หลังคาโพลีคาร์บอเนตแบบตัน” ซึ่งมีความแข็งแรงและทนทาน เหมาะกับการใช้งานในระยะยาวและสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี และ “หลังคาไวนิล” สำหรับพื้นที่บ้านที่หันทางด้านทิศตะวันตกหรือทิศใต้ ที่โดดแดดตลอดทั้งวัน เพราะตัวแผ่นไวนิลจะเป็นแบบทึบแสงป้องกันความร้อนได้ดีที่สุด
- สวน : หากคุณต้องการติดตั้งกันสาดเพื่อให้สวนของคุณดูร่มรื่นและน่าใช้งาน “หลังคาชินโคไลท์และหลังคาโพลีตัน” ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีคุณสมบัติโปร่งแสง ระบายน้ำได้ดี ช่วยให้แสงแดดส่องถึงต้นไม้และช่วยรักษาความเย็นในพื้นที่ได้
- พื้นที่ซักล้าง : สำหรับพื้นที่ซักล้างหรือตากผ้าที่ต้องการแสงธรรมชาติและป้องกันน้ำฝนได้ดี ควรเลือกใช้วัสดุ”หลังคาโพลีตัน” เพราะตอบโจทย์ความโปร่งแสง และที่สำคัญคือราคาไม่แพง เหมาะกับพื้นที่ใช้งาน ไม่ได้ต้องการโชว์แขก
การเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อม จะช่วยให้การติดตั้งกันสาดมีประสิทธิภาพสูงสุดและเกิดความคุ้มค่าในระยะยาว
3. เลือกวัสดุที่ช่วยลดความร้อนและประหยัดพลังงาน
การต่อเติมกันสาด ถือเป็นหนึ่งในวิธีช่วยลดความร้อนในบ้านและประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก วัสดุที่มีคุณสมบัติในการสะท้อนแสงแดดและป้องกันความร้อนได้ดี จะช่วยให้บ้านของคุณเย็นสบายโดยไม่ต้องพึ่งพาการใช้เครื่องปรับอากาศมากเกินไป และช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
วิธีการดูแลรักษากันสาดให้ใช้งานได้นานขึ้น
การดูแลรักษากันสาด เป็นปัจจัยสำคัญในการยืดอายุการใช้งานและรักษาความสวยงามของกันสาดในระยะยาว สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
- ทำความสะอาดเป็นประจำ : ควรทำความสะอาดกันสาดทุก 6 เดือน โดยการใช้น้ำสบู่อ่อน ๆ และผ้าไมโครไฟเบอร์ เพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนบนวัสดุ
- ตรวจสอบการระบายน้ำ : ควรตรวจสอบการระบายน้ำของหลังคากันสาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดปัญหาน้ำขังที่อาจทำให้วัสดุเกิดความเสียหาย
- ซ่อมแซมทันทีเมื่อพบปัญหา : หากพบรอยร้าวหรือความเสียหายใด ๆ ที่กันสาด ควรทำการซ่อมแซมทันที เพื่อไม่ให้ปัญหาขยายใหญ่และส่งผลต่อการใช้งานในอนาคต
การดูแลรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้กันสาดของคุณใช้งานได้ยาวนาน และมีประสิทธิภาพในการปกป้องบ้านจากสภาพอากาศได้อย่างเต็มที่