สรุปสาเหตุและวิธีแก้ไขบ้านทรุด สังเกตก่อน ป้องกันได้

พื้นบ้านทรุด หนึ่งในสัญญาณเตือนของปัญหาบ้านทรุดที่ควรระวัง

การพบปัญหาบ้านทรุด หรือพื้นบ้านทรุด เป็นเรื่องที่เจ้าของบ้านหลายคนอาจจะต้องเผชิญ โดยเฉพาะเมื่อบ้านมีอายุมากขึ้นหรือมีการต่อเติมโดยไม่คำนึงถึงความมั่นคงของโครงสร้างเดิม ซึ่งอาจส่งผลให้บ้านเกิดการทรุดตัวจนกลายเป็นอันตรายได้ หากคุณเป็นเจ้าของบ้านที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ หรือกำลังพิจารณาการต่อเติมบ้าน การรู้จักสัญญาณเตือน สาเหตุของการทรุดตัวของบ้าน รวมถึงวิธีการแก้ไขบ้านทรุดอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณวางแผนป้องกันและรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต

3 สัญญาณเตือน มีอาการนี้เสี่ยงบ้านทรุด

ส่วนใหญ่ ปัญหาบ้านทรุดมักเป็นปัญหาเรื้อรัง ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในทันที แต่เกิดจากการทรุดตัวทีละเล็กละน้อย ดังนั้น สิ่งที่เจ้าของบ้านสามารถทำได้เพื่อป้องกันพื้นบ้านทรุดจนส่งผลต่อโครงสร้างและการอยู่อาศัย คือการหมั่นสังเกตสัญญาณเตือนเล็ก ๆ น้อย ๆ และเร่งแก้ปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยสัญญาณเตือนที่พบโดยทั่วไป ได้แก่

1. พบรอยร้าวที่ผนังและเพดาน

หากพบรอยร้าวที่ผนังและเพดาน โดยเฉพาะในบริเวณที่มุมของผนังต่อกับเพดาน หรือใกล้กับประตูและหน้าต่าง เป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงการเคลื่อนตัวของโครงสร้างบ้าน ซึ่งอาจเกิดจากการทรุดตัวของพื้นหรือฐานรากนั่นเอง

2. ประตูและหน้าต่างปิดไม่สนิท

ถ้าประตูและหน้าต่างที่เคยเปิด-ปิดได้ง่ายเริ่มปิดไม่สนิท หรือเปิดยากขึ้น ถือว่ามีความเสี่ยงที่โครงสร้างบ้านจะเกิดการเคลื่อนที่ ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการทรุดตัวของพื้นบ้านที่ไม่สม่ำเสมอได้

3. พื้นบ้านไม่เรียบ

บ้านที่มีปัญหาการทรุดตัว ส่วนใหญ่มักพบว่าพื้นบ้านไม่เรียบ เดินแล้วมีเสียงก้อง กระเบื้องปูพื้นแตก หรือมีรอยยุบตัวที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งสัญญาณนี้อาจมาจากการทรุดของโครงสร้างฐานรากโดยตรง

สาเหตุปัญหาพื้นบ้านทรุดที่พบบ่อย

ก่อนเกิดปัญหาย่อมต้องมีสาเหตุ ปัญหาบ้านทรุดก็เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน โดยเฉพาะปัจจัยสำคัญเหล่านี้

  • การออกแบบฐานรากไม่ดีหรือการก่อสร้างที่ไม่มั่นคง โดยเฉพาะบ้านที่สร้างบนที่ดินที่มีความอ่อนตัว
  • บ้านที่ไม่ได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ เช่น การซ่อมแซมรอยร้าว หรือการตรวจสอบสภาพโครงสร้างบ้านเป็นประจำ
  • การต่อเติมบ้านโดยไม่คำนึงถึงโครงสร้างเดิม เช่น การเพิ่มพื้นที่ชั้นบน การสร้างส่วนขยายที่หนักเกินไป ส่งผลให้โครงสร้างไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้
  • การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการขุดเจาะใกล้บ้าน หรือการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำใต้ดิน รวมทั้งภัยธรรมชาติอย่างแผ่นดินไหว น้ำท่วม และพายุ
วิศวกรกำลังตรวจสอบความเสียหายเพื่อวางแผนแก้ไขบ้านทรุดอย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการแก้ไขบ้านทรุดอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับใครที่พบว่าบ้านของตัวเองมีอาการบ้านทรุด อย่าเพิ่งตื่นตระหนกว่าบ้านทรุดแล้วจะถล่มไหม เพราะยังมีวิธีแก้ไขบ้านทรุดที่จะช่วยจบความกังวลนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ดังนี้

1. ตรวจสอบสภาพฐานรากเพื่อหาสาเหตุบ้านทรุด

ฐานราก เป็นส่วนที่รองรับน้ำหนักทั้งหมดของบ้าน มีหน้าที่รักษาความมั่นคงของโครงสร้าง หากบ้านมีการทรุดตัว ควรให้วิศวกรผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจรอยร้าวในพื้นที่ฐานรากและตรวจสอบการทรุดตัวของดิน เพื่อหาวิธีซ่อมแซมฐานรากที่ตรงจุด

2. ซ่อมแซมรอยร้าวในผนัง

รอยร้าวในผนัง คือหนึ่งในสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงการทรุดตัว เบื้องต้นสามารถซ่อมแซมได้ตามขั้นตอนเหล่านี้

  • ทำความสะอาดรอยร้าวจากฝุ่นหรือเศษวัสดุต่าง ๆ
  • ใช้วัสดุซ่อมแซมรอยร้าวที่เหมาะสม เช่น กาวซิลิโคน ซีเมนต์ เติมเข้าไปในรอยร้าวแล้วเกลี่ยให้เสมอกัน
  • หลังจากวัสดุซ่อมแซมแห้งแล้ว ให้ทาสีผนังใหม่เพื่อให้ผนังดูเรียบร้อยและสวยงามอีกครั้ง

3. ปรับระดับพื้นบ้านใหม่

กรณีที่พื้นบ้านทรุดจากการทรุดตัวของดิน หรือความผิดปกติของโครงสร้างพื้น จำเป็นต้องมีการปรับระดับพื้นบ้านใหม่โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันปัญหาการเคลื่อนที่หรือการเสียหายเพิ่มเติม ซึ่งวิศวกรจะเริ่มต้นจากการตรวจสอบบริเวณต่าง ๆ ของพื้นบ้านเพื่อประเมินระดับการทรุดตัว จากนั้นจึงเป็นการปรับระดับพื้นให้เรียบ แล้วปูทับด้วยวัสดุปูพื้นก็เป็นอันเสร็จ

4. ตรวจสอบและปรับปรุงระบบระบายน้ำ

การระบายน้ำที่ไม่ดีทำให้ดินรอบ ๆ ฐานรากเปียกชื้นอยู่เสมอ หากเกิดขึ้นในระยะยาว อาจนำไปสู่การทรุดตัวของบ้านได้ ถ้าตรวจพบปัญหา ควรตรวจสอบท่อระบายน้ำว่ามีการอุดตันหรือไม่ และให้ช่างซ่อมแซมท่อที่เสียหาย ออกแบบระบบระบายน้ำใหม่ และตรวจสอบให้ดีว่าน้ำฝนไหลลงไปในท่อระบายน้ำได้ดี ไม่มีน้ำขังที่รอบ ๆ ฐานราก เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำในอนาคต

จาก 4 วิธีข้างต้นเป็นแนวทางในการแก้ไขบ้านทรุดที่นิยมใช้โดยทั่วไป ส่วนจะเลือกใช้วิธีไหนนั้น ต้องเริ่มจากการประเมินปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นหลัก โดยควรปรึกษาวิศวกรมืออาชีพเพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมในการซ่อมแซม เพื่อให้บ้านกลับมามีสภาพดี อยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว

แนวทางป้องกันปัญหาบ้านทรุดที่ควรรู้

นอกเหนือจากการรับมืออย่างถูกวิธี อีกสิ่งหนึ่งที่เจ้าของบ้านทุกคนทำได้ตั้งแต่วันนี้ คือการป้องกันและสร้างความมั่นคงให้บ้านตั้งแต่ฐานราก โดยสามารถทำได้ตามแนวทางเหล่านี้

  • การเลือกวัสดุต่อเติมบ้านที่มีความแข็งแรง ทนทาน เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานและสภาพแวดล้อม เช่น การเลือกใช้หลังคาชินโคไลท์ในการต่อเติม นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังมีมาตรฐานการติดตั้ง ลดความเสี่ยงบ้านทรุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การออกแบบโครงสร้างบ้านให้แข็งแรง เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง และใช้บริการวิศวกรผู้เชี่ยวชาญในการคำนวณและออกแบบฐานรากให้สามารถรับน้ำหนักได้ดี รวมทั้งรองรับการเคลื่อนตัวของดินที่อาจเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา
  • การตรวจสอบและซ่อมแซมรอยร้าวอย่างสม่ำเสมอ ทั้งที่ผนังหรือพื้นบ้านเนื่องจากการซ่อมแซมอย่างทันท่วงทีจะช่วยป้องกันไม่ให้ปัญหาลุกลามไปสู่การทรุดตัวที่รุนแรงในอนาคตได้
  • การวางระบบระบายน้ำที่ดี พร้อมติดตั้งระบบกันซึม ป้องกันปัญหาน้ำขัง ไม่ให้น้ำฝนหรือความชื้นเข้าทำลายโครงสร้างและพื้นจนบ้านมีปัญหาทรุดตัว

การต่อเติมบ้านอย่างมั่นใจ นำไปสู่การป้องกันปัญหาพื้นบ้านทรุดอย่างยั่งยืน เริ่มต้นจากการวางแผนที่ดีและใช้วัสดุมีคุณภาพ หากอยากต่อเติมหลังคาบ้านแต่ไม่อยากปวดหัวกับปัญหาบ้านทรุดตัวในอนาคต ต้องเลือกบริการรับติดตั้งหลังคาโปร่งแสงอะคริลิกที่ได้มาตรฐาน ซึ่งที่ ROOVTECT เราพร้อมให้บริการรับติดตั้งหลังคาชินโคไลท์ ด้วยการออกแบบจากสถาปนิกและวิศวกรมืออาชีพ มั่นใจในคุณภาพ ความแข็งแรง และความปลอดภัยของทุกการต่อเติม รับประกันยาวนานถึง 10 ปี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-096-3464 หรือ LINE: @roovtect

ข้อมูลอ้างอิง

วิธีการตรวจสอบบ้านทรุดด้วยตนเองเบื้องต้น. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2568 จาก https://siamengineergroup.com/วิธีการตรวจสอบบ้านทรุด/