ปัญหาหนึ่งของคนที่ต้องการต่อเติมบ้าน คือ การหาบริษัทต่อเติมบ้านที่มีความเชี่ยวชาญ คุณภาพดี และได้มาตรฐาน ไม่ทิ้งงาน และให้คำปรึกษาที่จริงใจ ตรงกับความต้องการ แต่เราจะต่อเติมบ้านที่ไหนดี ? และมีวิธีพิจารณาผู้รับเหมาต่อเติมบ้านอย่างไร ให้ตรงกับความต้องการของเรา และไม่ต้องปวดหัวในภายหลัง
1.ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นในการต่อเติม
อันดับแรกในการหาผู้รับเหมาต่อเติมบ้าน ไม่ใช่การสืบเสาะมองหาภายนอก หรือการ Search หาใน Google แต่เป็นการศึกษาและสำรวจความต้องการของตนเองและครอบครัวอย่างแท้จริง ว่าต้องการต่อเติมบ้านหรือหลังคาในรูปแบบไหน ใช้ประโยชน์ในด้านใดบ้าง
ตัวอย่างเช่น หากว่าเราต้องการต่อเติมโรงรถ ก็ควรพิจารณาว่าจะจอดรถกี่คัน รถขนาดใหญ่หรือเปล่า เป็นรถยนต์ซีดาน รถตู้ หรือรถประเภทไหน นอกจากนี้ อาจจะต้องคำนึงถึงการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะต้องมีการชาร์จไฟภายในโรงจอดรถอีกด้วย
ในอีกกรณีหนึ่ง หากว่าเราต้องการต่อเติมพื้นที่ข้างบ้าน ให้เราพิจารณาความชอบและกิจกรรมของครอบครัวว่าเป็นแบบใด เช่น นั่งชิลล์อ่านหนังสือ ปาร์ตี้หมูกระทะปิ้งย่าง หรือต้องการเปลี่ยนพื้นที่ว่างให้กลายเป็นห้องสัตว์เลี้ยง เพื่อที่จะทราบความต้องการและสามารถบอกกับช่างผู้ต่อเติมได้อย่างตรงจุด
2.หาข้อมูลของบริษัทต่อเติมบ้าน
เมื่อรู้ความต้องการของตนเองแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ การหาข้อมูลของบริษัทต่อเติมบ้าน โดยแนะนำให้พิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้
ดูจากเว็บไซต์ และรีวิว
การค้นหาเว็บไซต์ของบริษัทต่อเติมบ้าน และอ่านรีวิวของบริษัท โดยสามารถดูได้ทั้งการรีวิวในเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และตามเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อสำรวจผลงานต่าง ๆ ของบริษัท
พิจารณาความน่าเชื่อถือ
ตรวจสอบจากประวัติการทำงานที่ผ่านมา โดยพิจารณาผลงานว่ามีความน่าเชื่อถือ รวมถึงการดูวัสดุก่อสร้างที่ใช้ว่าได้คุณภาพตามที่ต้องการหรือไม่ รวมถึงการสอบถามผู้ที่เคยใช้บริการ
ดูความเชี่ยวชาญของทีมงาน
บริษัทรับต่อเติมบ้านแต่ละแห่ง มีความรู้ความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันออกไป ลองดูว่าความเชี่ยวชาญของบริษัทตรงกับความต้องการของเราหรือเปล่า และทีมงานมีความเชี่ยวชาญมากน้อยเพียงใด
ตรวจสอบข้อมูลบริษัท มีแหล่งที่ตั้งชัดเจน
ลองนำชื่อบริษัทไปตรวจสอบที่ตั้ง และการจดทะเบียนการค้า เพื่อให้แน่ใจว่ามีบริษัทนี้อยู่จริง ไม่หลอกลวง

3.เปรียบเทียบบริษัทและประเมินคุณสมบัติ
หากว่าเรามี Short List ของบริษัทต่อเติมบ้านในใจแล้ว ให้ตรวจสอบงบประมาณ ราคา และวัสดุที่ใช้ในการต่อเติมของแต่ละบริษัท อย่าเลือกบริษัทต่อเติมบ้านที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะเลือกเจ้าที่ราคาสมเหตุสมผล ไม่แพงเกินจริง และไม่ถูกเกินไป เพราะเสี่ยงต่อการโดนหลอก หรือถูกทิ้งงานได้เช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้ ให้นำงบประมาณที่เรามีเป็นตัวตั้ง จากนั้นเปรียบเทียบวัสดุและราคาที่แต่ละเจ้าเสนอมา เพื่อให้ได้ตัวเลือกที่ดีที่สุด
4.มีสัญญาชัดเจน และชำระเงินเป็นงวด
เมื่อเลือกบริษัทต่อเติมบ้านได้แล้ว สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องทำทุกครั้งคือ การร่างสัญญาที่ชัดเจน โดยแบ่งการชำระเป็นงวด ๆ ตามปริมาณงานที่ได้ เพื่อป้องกันผู้รับเหมาทิ้งงาน
ตัวอย่างการแบ่งงวดงานตามสัญญา
- งวดที่ 1 จ่าย 5-10% ของสัญญา เมื่อเซ็นสัญญาเริ่มงาน
- งวดที่ 2 งานลงเสาเข็ม
- งวดที่ 3 งานตอม่อ หรือพื้น
- งวดที่ 4 งานเสาและคาน
- งวดที่ 5 งานมุงหลังคา
- งวดที่ 6 งานผนัง
- งวดที่ 7 งานไฟฟ้า ประปา เดินสาย
- งวดที่ 8 งานตกแต่งภายใน
- งวดที่ 9 งานติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ (ถ้ามี)
- งวดที่ 10 เคลียร์พื้นที่ และตรวจสอบความเรียบร้อยทั้งหมด
หากว่าเป็นงานต่อเติมเล็กน้อย หรือใช้เวลาไม่นาน อาจจะแบ่งงวดสัญญาน้อยกว่านี้ได้เช่นเดียวกัน
5.รับประกันโครงสร้างและความเสียหาย
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ให้สอบถามบริษัทต่อเติมบ้านถึงการรับประกันโครงสร้างและความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังจากที่งานแล้วเสร็จ แนะนำให้เลือกบริษัทที่มีการรับประกันงาน ยิ่งนานเท่าไรยิ่งดี เพราะเป็นการการันตีคุณภาพของวัสดุและการก่อสร้าง ช่วยป้องกันปัญหาที่ตามมาในภายหลัง
หากว่าใครกำลังมองหาบริษัทต่อเติมบ้าน โรงรถ หรือพื้นที่ข้างบ้าน สามารถปรึกษา ROOVTECT เรารับติดตั้งหลังคาโรงรถหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการรับติดตั้งหลังคา Shinkolite ที่สวยงาม ทนทาน และกันความร้อนได้ พร้อมส่งมอบงานคุณภาพ เรามีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญทั้งทีมสถาปนิกและวิศวกร รับประกันงานโครงสร้าง 5 ปี และส่วนควบ 2 ปี สอบถามเพิ่มเติม โทร. 02-096-3464 หรือ LINE OA : Roovtect