สรุปทุกเรื่องของกาวซิลิโคน พร้อมวิธียิงซิลิโคนให้สวย

เชื่อว่าคนจำนวนมากต้องเคยประสบปัญหารอยร้าว รั่ว ซึมในบ้าน และวิธีการซ่อมแบบแรก ๆ ที่คนส่วนใหญ่นึกถึง ก็หนีไม่พ้นการใช้ยาแนว ซึ่งคุณสมบัติของยาแนวคือช่วยให้สามารถสร้างและซ่อมงานหลายประเภทให้เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในประเภทยาแนวที่นิยมใช้มากที่สุด ได้แก่ ยาแนวซิลิโคน หรือกาวซิลิโคน นั่นเอง

เพื่อให้เข้าใจและเลือกใช้กาวซิลิโคนได้เหมาะสมกับประเภทงานมากขึ้น วันนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึกเรื่องกาวซิลิโคนแบบรู้ลึก รู้จริง ตอบชัด ๆ ว่ากาวซิลิโคนใช้ทำอะไร มีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทนำไปติดอะไรได้บ้าง ?

กาวซิลิโคน คืออะไร?

แนะนำรายละเอียด กาวซิลิโคนคืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง

ซิลิโคนยาแนว หรือกาวซิลิโคน (Silicone Sealant) คือกาวที่มีโพลีเมอร์ซิลิโคนเป็นส่วนผสมหลัก เมื่อแห้งและแข็งตัวจะมีความยืดหยุ่นสูงถึง 25% ซึ่งเนื้อจะมีความมันวาว นำไปใช้งานได้ทั้งงานภายในและภายนอกอาคาร ทนทานต่อรังสี UV มีความเหนียวและแรงยึดเกาะสูง

กาวซิลิโคน มีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีข้อดีอะไรบ้าง ?

Silicone Sealant หรือกาวซิลิโคน คือวัสดุที่ยึดเกาะวัสดุต่าง ๆ ได้ดี

กาวซิลิโคนแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท แต่ละประเภทมีรายละเอียดที่ควรรู้ดังต่อไปนี้

1. กาวซิลิโคนแบบมีกรด (Acetic Cure Silicone)

กาวซิลิโคนแบบมีกรด จะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวคล้ายน้ำส้มสายชู เพราะมีสารระเหยเป็นส่วนผสม ส่วนผู้ที่สงสัยว่ากว่ากาวซิลิโคนจะแห้ง ต้องใช้เวลากี่นาที คำตอบคือกาวซิลิโคนประเภทนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 15 นาทีก็แห้งสนิท เมื่อแห้งแล้วจะมีความทนทานสูง แต่อาจกัดกร่อนวัสดุได้ เพราะมีความเป็นกรด กาวซิลิโคนแบบมีกรดนิยมใช้ในการติดกระจกที่ทนสารเคมีได้สูง เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในระดับพอดี ไม่อ่อน หรือไม่แข็งมากเกินไป ทนต่อรังสี UV ได้ดี มีแรงยึดเกาะสูง สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร แต่ไม่ควรใช้กับวัสดุที่พื้นผิวเป็นเซรามิก โลหะ และหิน เนื่องจากเสี่ยงต่อปัญหาวัสดุถูกกัดกร่อน

2. กาวซิลิโคนแบบไม่มีกรด (Neutral Cure Silicone)

กาวซิลิโคนแบบไม่มีกรด จะแห้งช้าและแข็งแรงน้อยกว่า แต่มีความยืดหยุ่นมากกว่ากาวซิลิโคนแบบมีกรด กลิ่นเหม็นน้อย และไม่กัดกร่อนวัสดุ แบ่งออกได้ 2 ประเภทย่อย ได้แก่ กาวซิลิโคนชนิดออกไซม์ (Oxime-Based Silicone) และกาวซิลิโคนชนิดอัลโคซี่ (Alcoxy-Based Silicone) ข้อดีของกาวซิลิโคนแบบไม่มีกรด คือสามารถใช้กับพื้นที่เป็นหิน เซรามิก หรือโลหะได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ออกฤทธิ์กัดกร่อนและไม่มีกลิ่นเหม็น แต่มักมีราคาแพงกว่า

วิธีใช้กาวซิลิโคนง่าย ๆ เพียง 5 ขั้นตอน

ขั้นตอนและวิธียิงซิลิโคนให้สวย

เมื่อทราบแล้วว่ากาวซิลิโคนแต่ละชนิดเหมาะกับการใช้งานแบบไหน ต่อมา คือการนำไปใช้งานจริง โดยวิธียิงซิลิโคนให้สวยและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนสำคัญ ดังนี้

1. เตรียมพื้นผิวให้พร้อมก่อนใช้กาวซิลิโคน

อยากยิงกาวซิลิโคนให้ออกมาสวย เรียบเนียน ขั้นตอนแรกต้องทำความสะอาดพื้นผิวที่จะลงกาวให้สะอาด แห้ง ไม่มีฝุ่น เศษซีเมนต์ คราบไข หรือคราบยาแนวใด ๆ ถ้ามีกาวซิลิโคนเดิมหลงเหลืออยู่บนพื้นผิว สามารถใช้เกรียงหรือคัตเตอร์ลอกออก หรือใช้น้ำยาเช็ดคราบกาวซิลิโคนเช็ดออกได้ และหากต้องการยิงกาวเพื่อให้พื้นผิวเรียบขึ้น สามารถนำเทปกาวมาแปะไว้บริเวณขอบทั้งสองด้านก่อนเริ่มลงกาวได้เช่นกัน

2. ใส่กาวซิลิโคนไว้ในปืนยิงกาว

ลำดับถัดไป เป็นการนำกาวซิลิโคนใส่ปืนยิงกาว เริ่มต้นจากการตัดปลายหลอดเป็นมุม 45 องศา ซึ่งจะมีขนาดพอดีกับความกว้างของร่องพื้นผิวที่ต้องการจะอุดรอย จากนั้นทำการบรรจุหลอดลงไปในปืนยิงกาว แล้วขันปืนกาวให้แน่น

3. ยิงกาวซิลิโคนบนพื้นผิว

ในขั้นตอนการยิงกาวซิลิโคนลงบนพื้น ต้องตั้งหลอดกาวเป็นมุม 45 องศากับร่องของพื้นผิว หลังจากนั้นทำการยิงกาวตรงพื้นที่ที่ต้องการจนครบ

4. เก็บงาน

หลังยิงกาวซิลิโคนเสร็จเรียบร้อย เพื่อความสวยงามและเรียบร้อยของงาน สามารถใช้เกรียงปาดเพื่อตกแต่งพื้นผิวให้เรียบเนียน หรือจะใช้มือจุ่มน้ำสะอาดผสมน้ำสบู่ปาดเพื่อเก็บงาน ทำความสะอาดเศษกาว และตกแต่งขอบให้ดูสวยงามมากขึ้น โดยควรเร่งเก็บงานให้เรียบร้อยก่อนที่เนื้อกาวจะแห้ง

5. รอให้กาวซิลิโคนแห้ง

มาถึงขั้นตอนสุดท้าย คือการรอให้กาวซิลิโคนแห้งสนิท โดยจะใช้เวลาเท่าไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของกาวซิลิโคนที่เลือกใช้

ความแตกต่างระหว่างซิลิโคนและอะคริลิก พร้อมวิธีเลือกใช้ให้เหมาะสม

หากมองผิวเผิน กาวซิลิโคนและอะคริลิกต่างก็ใช้เพื่อยาแนวปิดช่องว่าง หรือรอยต่อ ภายในบ้าน หรืออาคารต่าง ๆ รวมไปถึงมีลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว กาวทั้ง 2 ประเภทนี้มีรายละเอียดและคุณสมบัติที่แตกต่างกันบางประการ เพื่อให้งานของคุณออกมาแข็งแรงและสวยงามตามต้องการ มาดูความแตกต่างระหว่างกาวซิลิโคนและอะคริลิกกัน

1. กาวซิลิโคน

กาวซิลิโคน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือชนิดกลาง และชนิดกรด ซึ่งกาวซิลิโคนชนิดกรดนั้น มีคุณสมบัติแห้งเร็ว ยืดหยุ่น คงทน แข็งแรง และมีแรงยึดเกาะดีเยี่ยม อีกทั้งยังทนแดด ทนฝน และรังสี UV ได้ โดยกาวซิลิโคนตามท้องตลาดมีมากมายหลายเกรด และมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น ใช้ยาแนวเพื่อป้องกันเชื้อรา ป้องกันไฟลาม หรือใช้ยาแนวแผงโซลาร์เซลล์ หลังคาเมทัลชีต ประตู-หน้าต่าง ก็สามารถทำได้เช่นกัน ใช้ได้กับวัสดุหลายประเภท โดยไม่จำเป็นต้องใช้สารรองพื้น

2. อะคริลิ

กาวอะคริลิก คือกาวที่มีการใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย จึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผู้ใช้งาน โดยกาวอะคริลิกสามารถทนต่อสภาพอากาศที่หลากหลาย รังสี UV น้ำ และสารเคมีต่าง ๆ ได้ดี รวมไปถึงยึดเกาะได้กับหลากหลายวัสดุ นำไปใช้งานได้ทั้งยาแนวทั่วไป งานยาแนวกันไฟลาม และงานกันซึมดาดฟ้า และผนัง ได้อย่างดีเยี่ยม

ข้อควรระวังในการใช้กาวซิลิโคน

  • ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่น คราบน้ำมัน หรือสิ่งสกปรกก่อนทากาวซิลิโคน เพื่อให้ยึดเกาะได้ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • เลือกใช้กาวซิลิโคนให้เหมาะกับวัสดุและรูปแบบงาน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพหรือหลุดล่อน
  • ระวังการสูดดมไอระเหย เนื่องจากกาวซิลิโคนบางชนิดมีกลิ่นแรงและมีสารเคมีระเหยที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ ควรใช้งานในที่อากาศถ่ายเทสะดวก และสวมหน้ากากหากต้องทำงานเป็นเวลานาน
  • ซิลิโคนต้องใช้เวลากว่าจะแห้งสนิท ห้ามรีบใช้งานหรือสัมผัสก่อนเวลา เพราะอาจทำให้การยึดเกาะไม่สมบูรณ์

กาวซิลิโคนมีสารเคมีที่อาจเป็นอันตราย ควรเก็บให้ห่างจากเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง และหากสัมผัสผิวหนังหรือดวงตา ควรรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที

เมื่อเข้าใจแล้วว่ากาวซิลิโคนคืออะไร มีความแตกต่างจากอะคริลิกอย่างไร รวมถึงสามารถนำกาวซิลิโคนไปติดอะไรได้บ้าง เพื่อให้งานสร้างหรืองานซ่อมแซมของคุณออกมาเรียบเนียน และใช้ได้ยาวนาน

สำหรับใครที่มีแผนต่อเติมหรือซ๋อมแซมบ้าน และกำลังมองหาหลังคาดีไซน์สวย ช่วยทำให้บ้านเย็น ที่ ROOVTECT เราคือผู้ผลิตและออกแบบหลังคากันสาดและหลังคาโรงจอดรถ ด้วยวัสดุแผ่นอะคริลิก Shinkolite หลังคาไวนิล และหลังคาโพลีตัน ด้วยรูปแบบ Knockdown ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ โดยสถาปนิกและวิศวกรมืออาชีพ สนใจต่อเติมหรือติดตั้งหลังคาจอดรถและหลังคาทุกชนิด ติดต่อสอบถามเพื่อรับคำแนะนำและปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-096-3464 หรือ LINE Official Account: @roovtect

ใส่ความเห็น