กันสาด เป็นองค์ประกอบสำคัญของตัวบ้านที่ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในร่ม และปกป้องบริเวณบ้านจากสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นแดด ลม หรือฝน ทำให้บ้านดูสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับบ้านหากต้องการขายต่อด้วย การเลือกติดตั้งกันสาดให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่เจ้าของบ้านต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะเมื่อต้องตัดสินใจระหว่าง กันสาดมีเสาหรือกันสาดไร้เสา เพราะกันสาดทั้งสองประเภทนี้ ก็มีลักษณะและประโยชน์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
กันสาดแบบมีเสา แข็งแรง ทนทาน พื้นที่ใช้สอยเยอะ
กันสาดแบบมีเสา คือ การติดตั้งกันสาดโดยมีเสาเหล็กค้ำยันทำหน้าที่รองรับน้ำหนักของหลังคากันสาด โดยทั่วไปเสานี้จะติดตั้งที่มุมหรือบริเวณข้างของกันสาด ส่วนขนาดของเสาจะขึ้นอยู่กับขนาดของหลังคาและพื้นที่ใช้สอยด้านล่างเป็นหลัก
ข้อดีของกันสาดมีเสา
- แข็งแรง ทนทาน สามารถรับน้ำหนักได้ดี รองรับสภาพอากาศรุนแรงได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลมแรง ฝนตกหนัก รวมถึงการปกป้องบริเวณบ้านจากแสงแดดโดยตรง
- การมีเสาค้ำยันทำให้คุณสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยใต้กันสาดได้เต็มที่ จึงเหมาะกับการติดตั้งในบริเวณที่ต้องการใช้สำหรับทำกิจกรรมอื่น ๆ เช่น ใช้เป็นลานจอดรถ หรือพื้นที่นั่งเล่น
- การติดตั้งกันสาดแบบมีเสามักจะสะดวกกว่ากันสาดไม่มีเสา เพราะเสาค้ำยันจะช่วยเพิ่มความมั่นคง ทำให้การติดตั้งดำเนินไปได้โดยง่าย
ข้อจำกัดของกันสาดมีเสา
- ส่งผลต่อความสวยงามของบริเวณบ้านโดยรวม เนื่องจากเสาอาจบดบังทัศนียภาพ และทำให้มีขีดจำกัดในการออกแบบ
- บางกรณี การติดตั้งเสาที่ต้องรองรับน้ำหนักของกันสาด จำเป็นต้องมีการลงเสาเข็มเพื่อเพิ่มความมั่นคง ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น
- ใช้เวลาก่อสร้างนาน เพราะต้องเจาะพื้นดินสำหรับลงเสาและเสาเข็ม ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้งานพื้นที่ช่วงระหว่างการก่อสร้าง ในกรณีที่เป็นงานเข็มแบบคอนกรีต
กันสาดหน้าบ้านแบบไม่มีเสา ติดตั้งไว ประหยัดค่าใช้จ่าย
กันสาดไร้เสา หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า กันสาดแบบเท้าแขน เป็นการติดตั้งกันสาดโดยที่ไม่มีเสาค้ำยัน แต่ใช้แขนเหล็กหรือโครงสร้างยึดติดจากผนัง ติดตั้งในมุม 45 องศา เป็นตัวรองรับน้ำหนักของหลังคากันสาด การติดตั้งกันสาดแบบนี้จะช่วยให้พื้นที่มีความโปร่งโล่งและดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของกันสาดแบบไม่มีเสา
- การเลือกใช้กันสาดไร้เสาจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง เนื่องจากไม่ต้องเสียค่าวัสดุสำหรับติดตั้งเสาและลงเสาเข็ม
- กันสาดประเภทนี้ใช้โครงสร้างที่ยึดกับตัวบ้านโดยตรง ไม่ต้องเสียเวลาทำฐานรากหรือฝังเสา จึงติดตั้งได้รวดเร็วและสะดวกมากยิ่งขึ้น
- ดีไซน์ของกันสาดไร้เสาทำให้บ้านดูโปร่ง โล่งสบาย ไม่มีเสามาบดบังสายตา เหมาะกับบ้านที่ต้องการความทันสมัย และต้องการโชว์ความสวยงามของบ้านอย่างเต็มที่
- ช่วยลดปัญหาการทรุดตัวของบ้าน เนื่องจากไม่ต้องลงเสาเข็มหรือเพิ่มน้ำหนักในจุดใหม่ ๆ ที่อาจส่งผลต่อโครงสร้างหลักของบ้าน
ข้อจำกัดของกันสาดแบบไม่มีเสา
- ความแข็งแรงของกันสาดประเภทนี้ ขึ้นอยู่กับความทนทานของผนังหรือคานโครงสร้างที่ใช้รับน้ำหนัก หากไม่แข็งแรงพอ ก็อาจทำให้โครงสร้างบ้านเกิดความเสียหายได้
- ติดตั้งได้ในพื้นที่จำกัด เพราะต้องอาศัยโครงสร้างหลักของบ้านในการรับน้ำหนัก จึงไม่รองรับการสร้างกันสาดขนาดใหญ่ได้

เกณฑ์การพิจารณาวิธีการติดตั้ง เลือกกันสาดมีเสาหรือไม่มีเสาดี ?
สำหรับผู้ที่ต้องการต่อเติมบ้าน แล้วยังไม่มั่นใจว่าบ้านของคุณเหมาะกับกันสาดและหลังคาไม่มีเสาหรือมีเสา แนะนำให้พิจารณาจากหลักเกณฑ์สำคัญประกอบกัน ดังนี้
1. ประเมินโครงสร้างอาคารโดยวิศวกร
ข้อควรพิจารณาที่สำคัญที่สุด คือการให้วิศวกรประเมินแบบโครงสร้างอาคารเดิมที่ต้องการจะติดตั้ง ว่า มีความสามารถในการรับน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน เพื่อเลือกวิธีการติดตั้งและวัสดุที่ใช้ทำกันสาดให้สอดคล้อง
2. พิจารณาเสาหรือคานของบริเวณที่ติดตั้ง
ส่วนบริเวณที่ติดตั้งกันสาดไร้เสาได้ โครงสร้างของอาคารต้องเป็นเสาหรือคานคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ที่มีการเสริมเหล็กไว้ในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น เพื่อป้องกันโครงสร้างบ้านเสียหายและเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย
3. ความสามารถในการรับน้ำหนักของตัวบ้าน
การติดตั้งกันสาดบังแดดหรือหลังคาหน้าบ้านไม่มีเสา ต้องมั่นใจว่าผนังบ้านสามารถรับน้ำหนักของกันสาดได้โดยไม่ทำให้โครงสร้างบ้านเสียหาย จึงควรตรวจสอบความแข็งแรงของผนังและฐานรากอย่างถี่ถ้วน เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทรุดตัวในอนาคต
4. รูปแบบการใช้งานและพื้นที่ใช้สอยที่ต้องการ
การเลือกกันสาดมีเสาหรือไร้เสา ขึ้นอยู่กับการใช้งานและขนาดพื้นที่ หากต้องการพื้นที่โปร่งและไม่บดบังทัศนียภาพ ควรเลือกกันสาดไร้เสา แต่หากต้องการความทนทานและรองรับน้ำหนักได้มาก เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ กันสาดมีเสาจะตอบโจทย์มากกว่า
5. งบประมาณ
งบประมาณ เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกวัสดุและวิธีการติดตั้ง หากงบจำกัด คุณอาจต้องเลือกกันสาดแบบไม่มีเสาที่ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเพราะไม่ต้องลงเสาเข็ม และเลือกวัสดุที่ทนทานแต่ราคาประหยัด เช่น ใช้โครงเหล็กหรือวัสดุที่มีคุณสมบัติกันน้ำและความร้อนในราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและคงทนในระยะยาว
6. ความสวยงามและดีไซน์
สุดท้าย การเลือกดีไซน์และรูปแบบของกันสาด ต้องสอดคล้องกับสไตล์การตกแต่งบ้านและพื้นที่โดยรอบ เพื่อให้กันสาดไม่เพียงแค่มีประโยชน์ในการปกป้องแดดและฝน แต่ยังช่วยเพิ่มความสวยงามและเสริมเอกลักษณ์ให้แก่บ้านได้อย่างลงตัว
ก่อนต่อเติมบ้านและติดตั้งกันสาด ต้องคำนึงถึงทั้งความแข็งแรง ทนทาน และความสวยงามในการใช้งานระยะยาวควบคู่กันเสมอ หากวางแผนจะต่อเติมกันสาดบังแดดหรือหลังคาหน้าบ้านทั้งแบบไม่มีเสาและมีเสา สามารถปรึกษาทีมสปานิกและวิศวกรผู้เชี่ยวชาญได้ที่ ROOVTECT เรารับติดตั้งกันสาดครบวงจร โดยใช้วัสดุคุณภาพสูงพร้อมการออกแบบที่ทันสมัย พร้อมบริการรับประกันโครงสร้าง 5 ปี รับประกันส่วนควบของกันสาด 2 ปี (ครอบคลุมปัญหารั่วซึมและสีของโครงสร้าง) และยังมีการรับประกันวัสดุหลังคาโดยผู้ผลิตนานถึง 10 ปี สนใจปรึกษาและออกแบบกันสาดที่ตอบโจทย์การใช้งานของคุณได้ที่เบอร์ 02-096-3464 หรือ LINE: @roovtect
ข้อมูลอ้างอิง
- เทคนิคเลือกกันสาดให้ดี ไม่กลัวแดดกลัวฝน. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 จาก https://www.ddproperty.com/ข่าวอสังหาริมทรัพย์-บทความ/2017/7/156187/เทคนิคเลือกกันสาดให้ดี


